เครื่องฉายแสงโปรเจคเตอร์
เครื่องฉายโปรเจคเตอร์
เครื่องฉายภาพ หรือ เครื่องฉายวีดิทัศน์ เป็นอุปกรณ์สำหรับฉายภาพจากสัญญาณวิดีโอ ผ่านระบบเลนส์ไปยังฉากรับภาพ โดยใช้ไฟที่สว่างและจ้าในการฉายภาพ โดยเครื่องฉายภาพรุ่นใหม่ สามารถแก้ไข ส่วนโค้งเว้า ความคมชัด ส่วนประกอบของภาพ และอื่น ๆ ด้วยการปรับโดยผู้ใช้เอง เครื่องฉายภาพได้รับการใช้อย่างกว้างขวางในการนำเสนองานในห้องประชุม ห้องเรียน หรือ แม้แต่ใช้เป็นโรงภาพยนตร์ในบ้าน เครื่องฉายภาพจึงกลายเป็นที่นิยมและถูกใช้อย่างกว้างขวาง
เครื่องเครื่องฉายภาพในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีที่ใช้ 3 ชนิด คือ
1. เครื่องฉายภาพชนิดหลอดรังสีแคโทด (CRT projector)
ใช้หลอดรังสีแคโทด จะมีสามหลอดสี คือ สีน้ำเงิน สีเขียว และสีแดง โดยหลอดสีทั้งสามสามารถเลื่อนเพื่อปรับองศาของภาพให้ถูกต้องได้
2. เครื่องฉายภาพชนิดฉายแสงผ่านแผ่นแอลซีดี (LCD projector)
เป็นเครื่องฉายภาพที่มีระบบกลไกข้างในที่ไม่ซับซ้อน ทำให้เป็นเครื่องฉายภาพที่ถูกใช้อย่างกว้างขวาง เพราะราคาถูก เครื่องฉายภาพชนิดนี้มีปัญหาด้านการมองเรียกว่า screen door effect หรือ pixilation effect ซึ่งเราจะมองเห็นภาพเป็นจุด เป็นเหลี่ยมขนาดเล็ก และหลอดไฟมีราคาสูง
3. เครื่องฉายภาพชนิด DLP (DLP projector)
ใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า Digital Light Processor ของ Texas Instrument มีตัวกำเนิดแสงที่เล็กมากเรียกว่า Digital Micromirror Device (DMDs) เครื่องฉายภาพชนิดนี้ทำงานโดยปรกติจะใช้ DMD 2 ตัวจะใช้จานหมุนติดกระจกเพื่อสร้างสี
หลักการทำงานของเครื่องฉาย LCD Projector
หลักการทำงานของ ระบบ LCD Projector เริ่มจากการใช้หลอดไฟ กำลังไฟส่องสว่างสูงประเภท หลอดเมทัล-ไฮไลท์ หรือหลอด UHP (ULTRA HIGH POWER) เป็นต้นกำลังส่องสว่างกำเนิดแสงโดยแสงจะวิ่งผ่าน DICHROIC MIRROR (กระจกสะท้อนกรองแสง) และแสงวิ่งผ่านเลนส์ โดยเลนส์ทำหน้าที่แยกแสงออกเป็น 3 ทางและผ่านกระจกแม่สี คือแดง -RED (R) , เขียว - GREEN (G) และน้ำเงิน -BLUE (B) เพื่อให้แสงแต่ละสีผ่านไปสู่ LCD PANEL ของแต่ละสี ซึ่งแต่ละสีจะประกอบไปด้วยจำนวนแผงพิกเซล (PIXELS) เล็กๆ มากมาย แต่ละ PIXEL จะถูกควบคุมด้วยสัญญาณไฟฟ้าในการเปิดหรือปิดให้แสงแต่ละสีผ่านไปที่จอภาพได้ โดยแสงที่ผ่าน PIXEL จะผ่านเลนส์รวมแสงเพื่อผสมแม่สี ทำให้เกิดภาพขึ้นที่เลนส์ และแสงจะถูกยิงออกไปที่จอรับภาพ จึงทำให้ได้ภาพที่สมบูรณ์และเป็นธรรมชาติ
หลักการทำงานของเครื่องฉาย DLP Projector
DLP นับเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งของการนำเสนอ ที่มีอนาคตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า LCD และปัจจุบัน มีการพัฒนาไปจนถึงการใช้แทนเครื่องฉายภาพยนตร์
DLP มาจากคำว่า Digital Light Processing
หัวใจ ของเครื่องฉายภาพระบบ DLP ก็คือ ตัวกำเนิดภาพ ที่เรียกว่า DMD DMD มาจากคำว่า Digital Micro-Mirror Device หลักการทำงานของ Projector ระบบ DLP เริ่มจาก การใช้หลอดไฟประเภท UHP (ULTRA HIGH POWER) เป็นต้นกำลังส่องสว่างกำเนิดแสง หลังจากนั้นแสงจะวิ่งผ่านlensรวมแสง และวิ่งผ่านColor Wheel ซึ่ง Color Wheel จะทำหน้าที่กำเนิดสี หลังจากนั้นแสงจะวิ่งผ่าน Lens อีกครั้งหนึ่งเพื่อกระจายแสง และแสงจะวิ่งต่อไปยัง DMD chip ซึ่ง DMD chip จะทำหน้าที่กำเนิดภาพ หลังจากแสงไปกระทบ DMD Chip แล้ว จะทำให้แสง สี ภาพ ผสมกัน และ แสงจะส่งไปยัง Lens และจอรับภาพต่อไป ดังภาพข้างล่างนี้
ระบบเสียง
ระบบเสียง Sound/Audio Systems
หมายถึงการนำอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆมาต่อเชื่อมกันให้ทำงานอย่างเป็นระบบ
จึงเป็นการรวบรวมอุปกรณ์เกี่ยวกับเสียงที่มีความสัมพันธ์กันมาจัดให้เกิดความสมดุลย์ในการเชื่อมต่อเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
หากแบ่งตามจุดประสงค์การใช้งานด้านเสียงจะแบ่งระบบเสียงตามการใช้งานได้ดังต่อไปนี้
1 ระบบกระจายเสียงสาธารณะ Public address
หรือทีรู้จักกันดีว่าว่าระบบ PA เป็นงานระบบเสียงที่ต้องกำหนดบริเวณหรือจุดหวังผลที่ต้องการกระจายเสียงและคุณลักษณะของเสียงที่ต้องการกระจาย เพื่อออกแบบระบบและเลือกใช้อุปกรณ์เสียงต่างๆให้ถูกต้องโดยเฉพาะด้านกำลังขยายเสียงที่ต้องใช้ การจัดย่านความถี่เสียง และตำแหน่งของลำโพง ซึ่งอาจจัดขนาดของระบบตามลักษณะของปริมาณเสียงที่ใช้ในระบบ
2 ระบบเสียงเพื่อความบันเทิง Entertainment
มีวัตถุประสงค์เพื่อความบันเทิงของกลุ่มบุคคลที่ต้องการฟังเสียงจากระบบนั้น อาจเป็นการประกอบการแสดงต่างๆ การร้องเพลง หรือเต้นรำ และความบันเทิงอื่นๆ จึงต้องจัดระบบให้เหมาะสมตามกิจกรรม และระวังปัญหาเรื่องผู้ที่ไม่ต้องการฟังเสิยงหรือไม่ร่วมกิจกรรมบันเทิงนั้นๆ จึงเน้นความสำคัญเรื่องสถานที่จัดงานบันเทิงหรือ Entertainment venue เพื่อระบบเสียงที่ดีด้วย
3 ระบบเสียงเพื่อการประชุมและการอบรมสัมนา
มีการบรรยายและแสดงข้อมูลต่างๆ และซักถามโต้ตอบในการประชุมอภิปรายต่างๆ หรือมีการเรียนการสอนแบบปฏิสัมพันธ์ จึงต้องมีการออกแบบเรื่องการสื่อสารสองทางหรือ Two-way communication และกำหนดลักษณะการประชุมเพื่อจัดตำแหน่งและคุณสมบัติของอุปกรณ์ในระบบเสียงต่างๆให้ถุกต้อง ถ้าหากเป็นงานขนาดใหญ่อาจต้องใช้สถานที่เฉพาะเช่น Conference centre เพื่อความสะดวกในการออกแบบติดตั้งระบบเสียง
4 ระบบเสียงเพื่อการสื่อสารข้อมูลและประชาสัมพันธ์
อาจคล้ายคลึงกับข้อ 2.1 และ 2.3 ในบางส่วน แต่มีการกำหนดควบคุมพื้นที่เพื่อเลือกรับส่งข้อมูลเสียง
5 ระบบเสียงเคลื่อนที่เอนกประสงค์
โดยแต่ละระบบดังกล่าว อาจมีการใช้อุปกรณ์ร่วมกันหรือผสมระบบกันได้ หากมีจุดประสงค์การใช้งานหลากหลายหรือไม่เฉพาะเจาะจง
ระบบเสียง ถือเป็นระบบที่ต้องอาศัยความรู้ด้านวิศวกรรมศาตร์เกี่ยวกับเสียงหรือ Audio engineering มาประยุกต์ใช้ในการสร้างระบบเพื่อตอบสนองการใช้งานด้านเสียงโดยเฉพาะ และ อาจมีการใช้งานร่วมกับระบบภาพและแสง และต้องมีการรวมระบบหรือ System integration เข้าด้วยกันเป็นระบบภาพและเสียง หรือ Audio-visualหรือที่ผู้ใช้สื่อเรียกว่า มัลติมีเดีย Multimedia และบางครั้งอาจรวมระบบควบคุมแสง หรือ Lighting control system เข้ามาด้วยโดยเรียกรวมกันว่าระบบ AVL
เทคโนโลยีภาพเสียงไร้สาย
BLUETOOTH
เทคโนโลยีไร้สาย BLUETOOTH เป็นเทคโนโลยีไร้สายระยะสั้นที่สนับสนุนการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายระหว่างอุปกรณ์ดิจิตอล อย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และกล้องถ่ายภาพดิจิตอล เทคโนโลยีไร้สาย BLUETOOTH สามารถใช้งานได้ภายในช่วงระยะ 10 เมตร
การเชื่อมต่ออุปกรณ์สองชิ้นเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบการใช้งานตามปกติ แต่อุปกรณ์บางชนิดสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นมากกว่าสองชิ้นได้ในเวลาเดียวกัน
ท่านไม่จำเป็นต้องใช้สายเคเบิ้ลเพื่อทำการเชื่อมต่อ และไม่จำเป็นต้องวางอุปกรณ์ใกล้กันและหันเข้าหากันเหมือนการใช้เทคโนโลยีอินฟราเรด ตัวอย่างเช่น ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้จากกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อ/กางเกงมาตรฐาน BLUETOOTH เป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายพันบริษัททั่วโลก และมีบริษัทจำนวนมากนำไปใช้งานจนแพร่หลายทั่วโลกระยะสูงสุดที่สามารถใช้สื่อสารข้อมูลระยะสูงสุดที่สามารถใช้สื่อสารข้อมูลอาจสั้นลงได้ในกรณีต่อไปนี้มีสิ่งกีดขวางอย่างเช่น คน, โลหะ หรือกำแพง อยู่ระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้กับอุปกรณ์ BLUETOOTHมีอุปกรณ์ LAN ไร้สายใช้งานอยู่ในบริเวณใกล้กับอุปกรณ์ของท่าน
มีไมโครเวฟใช้งานอยู่ในบริเวณใกล้กับอุปกรณ์ของท่านมีอุปกรณ์ที่สร้างรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใช้งานอยู่ในบริเวณใกล้กับอุปกรณ์ของท่านการรบกวนจากอุปกรณ์อื่นเนื่องจากอุปกรณ์ BLUETOOTH และระบบ LAN ไร้สาย (IEEE802.11b/g) ใช้งานความถี่เดียวกัน อาจทำให้เกิดการรบกวนกันของคลื่นไมโครเวฟได้ ส่งผลให้ความเร็วการสื่อสารข้อมูลลดลง, เกิดสัญญาณรบกวน หรือไม่สามารถทำการเชื่อมต่อได้ หากใช้งานอุปกรณ์ของท่านใกล้กับอุปกรณ์ LAN ไร้สาย หากเกิดกรณีดังกล่าว ให้ดำเนินการดังนี้ใช้งานอุปกรณ์ที่ระยะห่างอย่างน้อย 10 เมตรจากอุปกรณ์ LAN ไร้สายหากใช้งานอุปกรณ์ภายในระยะ 10 เมตรจากอุปกรณ์ LAN ไร้สาย ให้ปิดอุปกรณ์ LAN ไร้สายการรบกวนที่มีต่ออุปกรณ์อื่นคลื่นไมโครเวฟที่แผ่ออกมาจากอุปกรณ์ BLUETOOTH อาจส่งผลรบกวนการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ได้ ให้ปิดอุปกรณ์ของท่านและอุปกรณ์ BLUETOOTH อื่นในสถานที่ต่อไปนี้ เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ในบริเวณที่มีก๊าซติดไฟง่าย, ในโรงพยาบาล, รถไฟ, เครื่องบิน หรือในสถานีบริการน้ำมันใกล้ประตูอัตโนมัติหรืออุปกรณ์แจ้งเตือนไฟไหม้
DLNA
DLNA (Digital Living Network Alliance) เป็นชื่อเทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานหรือข้อตกลงการเชื่อมต่อเพื่อให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ภายในบ้าน เชื่อมต่อกันได้ง่ายๆแบบไร้สาย ทำให้ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ทีวี กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นวีดีโอ ปริ้นเตอร์ กล้องวีดีโอ และอื่นๆที่รองรับ DLNA นี้ สามารถแชร์ซึ่งกันและกันได้ ไม่ว่าจะดูภาพยนต์ ดูภาพถ่าย ดูวีดีโอที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ มือถือ tablet หรือในกล้องให้จอใหญ่ขึ้น ดูได้หลายคน ก็แค่แชร์ขึ้นไปบนทีวีโดยไม่จำเป็นต้องใช้สาย การประชุมในห้องประชุมก็จะสะดวกขึ้น ผู้ที่ร่วมประชุม สามารถส่งภาพ หรือวีดีโอ ขึ้นไปแสดงบนจอสมาร์ททีวีในห้องประชุมเพื่อประกอบการนำเสนอได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้สายต่อให้วุ่นวาย
เทคโนโลยี DLNA นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2003 ก่อตั้งโดยค่าย SONY ปัจจุบันนี้มีสมาชิก 225 ราย รวมทั้งแบรนด์ดังหลายแบรนด์ เช่น LG Samsung Huawei intel Motorola cisco hp ericsson และอีกหลายราย ซึ่งทีวีสมัยใหม่และอุปกรณ์อื่นๆเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล กล้องวีดีโอ ในสเปคกลางถึงสูง ก็จะมีเทคโนโลยีนี้ติดตัวมาด้วยทั้งนั้น ซึ่งก็รวมถึง LG ใช้ชื่อ Smart Share ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับมาตรฐานกลางคือ DLNA แม้จะคนละแบรนด์ แต่ก็ยังสามารถส่งถึงกันได้
ประโยชน์ของ DLNA นี้คือสามารถส่งภาพ ส่งวีดีโอขึ้นทีวีสำหรับการนำเสนอได้ง่ายๆผ่านทาง Wi-Fi ได้เลย ไม่ต้องต่อสายพวก VGA ติดกับคอม หรือสาย Analog เชื่อมกับตัวเครื่องเล่นให้วุ่นวาย และทำให้รกรุงรัง แน่นอนว่าทำให้การสร้าง home network ทำได้ง่ายดาย หลายๆคนก็นำมาทำเป็น media center โดยใข้คอมพิวเตอร์ส่งภาพ วีดีโอ หรือดูหนังได้บนจอทีวีใหญ่ๆ ผ่านทาง DLNA นี้
โดย smart TV และ มือถือ หรืออุปกรณ์ที่ต้องการจะส่งภาพ ส่งวีดีโอขึ้นทีวี แบบไร้สายนี้ จะต้องรองรับเทคโนโลยี DLNA ด้วยกัน โดยวิธีสังเกตอย่างง่ายๆ คือดูที่กล่องหรือตัวเครื่องว่ามีสัญลักษณ์ DLNA หรือไม่ และ ทั้ง smart TV และมือถือ หรือ Tablet หรือ คอมพิวเตอร์นั้นๆ จะต้องเชื่อมต่ออยู่ในวง Wi-Fi เดียวกันกับทีวี ด้วย
สำหรับวิธีแสดงวีดีโอหรือรูปภาพออกสู่จอสมาร์ททีวีด้วยเทคโนโลยี DLNA นี้ ทำได้ง่ายๆ
ขั้นแรกก็ เชื่อมต่อมือถือ smart Phone ที่รองรับ DLNA กับ Wi-Fi ที่อยู่ในวงเดียวกันกับที่ทีวีเชื่อมต่ออยู่ โดยตัวทีวีแบบสมาร์ททีวีนั้นจะเชื่อมต่อเข้ากับ network ด้วย Wi-FI dongle หรือจะเสียบผ่านสาย LAN ก็ได้ และยิ่ง บางรุ่นที่ราคาแพงงหน่อยก็มี Wi-Fi built-in มาเลยในตัวทีวี
จากนั้น ลองเลือกรูปภาพ หรือวีดีโอในมือถือของเรา จากนั้น ก็กดปุ่ม ที่แชร์ผ่าน… เพื่อแสดงเมนูขึ้นมาบนมือถือ LG ก็จะเจอกับปุ่ม Smart Share นี้จะมาพร้อมอยู่แล้วติดอยู่กับมือถือเลย โดยไม่ต้องโหลดผ่านทาง Google Play แต่พวก DLNA ในมือถือเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมากับมือถือราคาระดับกลางๆ จนถึงราคาระดับแพงๆ
เมื่อเลือก smartshare เพื่อนำฉายภาพผ่านทาง DLNA ก็จะเจอรายชื่อของอุปกรณ์ที่เราจะแชร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นทีวี หรือคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆที่รองรับ DLNA นี้ ก็เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ เช่นผ่านทีวีก็เลือกรหัสรุ่นของทีวีนี้ เพียงแค่นี้ ภาพ หรือวีดีโอที่เลือก ก็จะปรากฏบนทีวีแล้ว และยังสามารถแชร์จากคอมพิวเตอร์ หรือ กล้องดิจิตอล ที่มี DLNA นี้ ให้ขึ้นบนทีวีก็ได้ด้วยเช่นกัน และเทคโนโลยี DLNA นี้นำมาทำเป็น MediaCenter เพื่อความบันเทิงภายในบ้าน
Miracast
เทคโนโลยี Miracast™ จะอนุญาตให้หน้าจอของอุปกรณ์ Wi-Fi® Certified Miracast device-โทรศัพท์สมาร์ทโฟน, แทปเล็ต หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์--ให้ท่านสามารถทำการแสดงบนหน้าจอของทีวีได้. โดยใช้ฟังก์ชั่น การจำลองหน้าจอของทีวี และไม่ต้องใช้เราท์เตอร์แบบไร้สายหรือแบบมีสายช่วยในการทำงาน.
Ezcast
EZ Cast HDMI Dongle
อุปกรณ์ ที่สามารถเปลี่ยน TV ธรรมดาๆ ของคุณ ให้คุณสามารถเชื่อมต่อใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ และสามารถดูหนัง ฟังเพลงออนไลน์ ได้โดยการควบคุมผ่าน Smart Phone (Android/Iphone),Tablet และคอมพิวเตอร์ และยังสามารถแชร์ข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์ Document Ebook หรือแม้กระทั้งเกมส์ เข้าสู่จอ TV ได้อีกด้วย
คุณสมบัติ
สามารถเชื่อมต่อกันแบบไร้สายระหว่างTV และสมาร์ทโฟนเพื่อแชร์ข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์เอกสาร หรือไฟล์เสียง
สนับสนุน ezCast,DLNA,Miracast,EZAir(Airplay),ควบคุมและถ่ายทอดหน้าจอเพียงกดแค่ปุ่มเดียว
มีขนาดเล็กสามารถพกพาได้สะดวก
สนับสนุน Wifi 802.11 b/g/n
สนับสนุน HDMI 1.4,1080P Full HD
สนับสนุน อัพเดทออนไลท์
สนับสนุนระบบปฎิบัติการ Window,Android,IOS
Wecast
Wecast ด็องเกิลลิงก์การเชื่อมต่อ WIDLE WiFi ช่วยให้คุณแบ่งปันภาพถ่ายเพลงและวิดีโอได้อย่างง่ายดายจาก IOS และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แท็บเล็ตพีซีและคอมพิวเตอร์ ไฟล์มัลติมีเดียสามารถแสดงผลได้บนจอทีวีจอภาพคอมพิวเตอร์หรือโปรเจคเตอร์ WiFi miracast dongle ยังสนับสนุนเทคโนโลยี miracast และ airplay กล่าวได้ว่าเป็นเครื่องมือสำหรับความบันเทิงมัลติมีเดียภายในบ้านของคุณซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับงานนำเสนอในสำนักงานของคุณ
คุณสมบัติหลัก:
การเชื่อมต่อแบบไร้สายซิงค์ไฟล์รูปภาพ / วิดีโอ / เพลง / ไฟล์สำนักงาน / เว็บเบราเซอร์ / กล้องถ่ายรูปจาก iPhone / Android มาร์ทโฟน / แท็บเล็ตพีซีไปยังทีวีจอ / โปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการนำเสนอ PPT และการประชุมทางวิดีโอ
รองรับคุณลักษณะแบบโต้ตอบหลายหน้าจอเช่น DLNA / EZMirror (Miracast) / EZAir (Airpaly)
คุณสามารถสร้างโน้ตที่มีสีสันลงบนภาพถ่าย / Word / Excel / PPT / PDF / เว็บไซต์ไม่ว่าคุณจะบันทึกหรือไม่ก็ตาม
การเชื่อมต่อ WiFi ไร้สาย 802.11 b / g / n และความสามารถในการป้องกันการรบกวนที่แข็งแกร่ง
เอาต์พุต 1080P Full HD
ขนาดเล็กน้ำหนักเบาสะดวกในการเดินทาง
เครื่องฉายภาพ หรือ เครื่องฉายวีดิทัศน์ เป็นอุปกรณ์สำหรับฉายภาพจากสัญญาณวิดีโอ ผ่านระบบเลนส์ไปยังฉากรับภาพ โดยใช้ไฟที่สว่างและจ้าในการฉายภาพ โดยเครื่องฉายภาพรุ่นใหม่ สามารถแก้ไข ส่วนโค้งเว้า ความคมชัด ส่วนประกอบของภาพ และอื่น ๆ ด้วยการปรับโดยผู้ใช้เอง เครื่องฉายภาพได้รับการใช้อย่างกว้างขวางในการนำเสนองานในห้องประชุม ห้องเรียน หรือ แม้แต่ใช้เป็นโรงภาพยนตร์ในบ้าน เครื่องฉายภาพจึงกลายเป็นที่นิยมและถูกใช้อย่างกว้างขวาง
เครื่องเครื่องฉายภาพในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีที่ใช้ 3 ชนิด คือ
1. เครื่องฉายภาพชนิดหลอดรังสีแคโทด (CRT projector)
ใช้หลอดรังสีแคโทด จะมีสามหลอดสี คือ สีน้ำเงิน สีเขียว และสีแดง โดยหลอดสีทั้งสามสามารถเลื่อนเพื่อปรับองศาของภาพให้ถูกต้องได้
2. เครื่องฉายภาพชนิดฉายแสงผ่านแผ่นแอลซีดี (LCD projector)
เป็นเครื่องฉายภาพที่มีระบบกลไกข้างในที่ไม่ซับซ้อน ทำให้เป็นเครื่องฉายภาพที่ถูกใช้อย่างกว้างขวาง เพราะราคาถูก เครื่องฉายภาพชนิดนี้มีปัญหาด้านการมองเรียกว่า screen door effect หรือ pixilation effect ซึ่งเราจะมองเห็นภาพเป็นจุด เป็นเหลี่ยมขนาดเล็ก และหลอดไฟมีราคาสูง
3. เครื่องฉายภาพชนิด DLP (DLP projector)
ใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า Digital Light Processor ของ Texas Instrument มีตัวกำเนิดแสงที่เล็กมากเรียกว่า Digital Micromirror Device (DMDs) เครื่องฉายภาพชนิดนี้ทำงานโดยปรกติจะใช้ DMD 2 ตัวจะใช้จานหมุนติดกระจกเพื่อสร้างสี
หลักการทำงานของเครื่องฉาย LCD Projector
หลักการทำงานของ ระบบ LCD Projector เริ่มจากการใช้หลอดไฟ กำลังไฟส่องสว่างสูงประเภท หลอดเมทัล-ไฮไลท์ หรือหลอด UHP (ULTRA HIGH POWER) เป็นต้นกำลังส่องสว่างกำเนิดแสงโดยแสงจะวิ่งผ่าน DICHROIC MIRROR (กระจกสะท้อนกรองแสง) และแสงวิ่งผ่านเลนส์ โดยเลนส์ทำหน้าที่แยกแสงออกเป็น 3 ทางและผ่านกระจกแม่สี คือแดง -RED (R) , เขียว - GREEN (G) และน้ำเงิน -BLUE (B) เพื่อให้แสงแต่ละสีผ่านไปสู่ LCD PANEL ของแต่ละสี ซึ่งแต่ละสีจะประกอบไปด้วยจำนวนแผงพิกเซล (PIXELS) เล็กๆ มากมาย แต่ละ PIXEL จะถูกควบคุมด้วยสัญญาณไฟฟ้าในการเปิดหรือปิดให้แสงแต่ละสีผ่านไปที่จอภาพได้ โดยแสงที่ผ่าน PIXEL จะผ่านเลนส์รวมแสงเพื่อผสมแม่สี ทำให้เกิดภาพขึ้นที่เลนส์ และแสงจะถูกยิงออกไปที่จอรับภาพ จึงทำให้ได้ภาพที่สมบูรณ์และเป็นธรรมชาติ
หลักการทำงานของเครื่องฉาย DLP Projector
DLP นับเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งของการนำเสนอ ที่มีอนาคตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า LCD และปัจจุบัน มีการพัฒนาไปจนถึงการใช้แทนเครื่องฉายภาพยนตร์
DLP มาจากคำว่า Digital Light Processing
หัวใจ ของเครื่องฉายภาพระบบ DLP ก็คือ ตัวกำเนิดภาพ ที่เรียกว่า DMD DMD มาจากคำว่า Digital Micro-Mirror Device หลักการทำงานของ Projector ระบบ DLP เริ่มจาก การใช้หลอดไฟประเภท UHP (ULTRA HIGH POWER) เป็นต้นกำลังส่องสว่างกำเนิดแสง หลังจากนั้นแสงจะวิ่งผ่านlensรวมแสง และวิ่งผ่านColor Wheel ซึ่ง Color Wheel จะทำหน้าที่กำเนิดสี หลังจากนั้นแสงจะวิ่งผ่าน Lens อีกครั้งหนึ่งเพื่อกระจายแสง และแสงจะวิ่งต่อไปยัง DMD chip ซึ่ง DMD chip จะทำหน้าที่กำเนิดภาพ หลังจากแสงไปกระทบ DMD Chip แล้ว จะทำให้แสง สี ภาพ ผสมกัน และ แสงจะส่งไปยัง Lens และจอรับภาพต่อไป ดังภาพข้างล่างนี้
ระบบเสียง
ระบบเสียง Sound/Audio Systems
หมายถึงการนำอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆมาต่อเชื่อมกันให้ทำงานอย่างเป็นระบบ
จึงเป็นการรวบรวมอุปกรณ์เกี่ยวกับเสียงที่มีความสัมพันธ์กันมาจัดให้เกิดความสมดุลย์ในการเชื่อมต่อเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
หากแบ่งตามจุดประสงค์การใช้งานด้านเสียงจะแบ่งระบบเสียงตามการใช้งานได้ดังต่อไปนี้
1 ระบบกระจายเสียงสาธารณะ Public address
หรือทีรู้จักกันดีว่าว่าระบบ PA เป็นงานระบบเสียงที่ต้องกำหนดบริเวณหรือจุดหวังผลที่ต้องการกระจายเสียงและคุณลักษณะของเสียงที่ต้องการกระจาย เพื่อออกแบบระบบและเลือกใช้อุปกรณ์เสียงต่างๆให้ถูกต้องโดยเฉพาะด้านกำลังขยายเสียงที่ต้องใช้ การจัดย่านความถี่เสียง และตำแหน่งของลำโพง ซึ่งอาจจัดขนาดของระบบตามลักษณะของปริมาณเสียงที่ใช้ในระบบ
2 ระบบเสียงเพื่อความบันเทิง Entertainment
มีวัตถุประสงค์เพื่อความบันเทิงของกลุ่มบุคคลที่ต้องการฟังเสียงจากระบบนั้น อาจเป็นการประกอบการแสดงต่างๆ การร้องเพลง หรือเต้นรำ และความบันเทิงอื่นๆ จึงต้องจัดระบบให้เหมาะสมตามกิจกรรม และระวังปัญหาเรื่องผู้ที่ไม่ต้องการฟังเสิยงหรือไม่ร่วมกิจกรรมบันเทิงนั้นๆ จึงเน้นความสำคัญเรื่องสถานที่จัดงานบันเทิงหรือ Entertainment venue เพื่อระบบเสียงที่ดีด้วย
3 ระบบเสียงเพื่อการประชุมและการอบรมสัมนา
มีการบรรยายและแสดงข้อมูลต่างๆ และซักถามโต้ตอบในการประชุมอภิปรายต่างๆ หรือมีการเรียนการสอนแบบปฏิสัมพันธ์ จึงต้องมีการออกแบบเรื่องการสื่อสารสองทางหรือ Two-way communication และกำหนดลักษณะการประชุมเพื่อจัดตำแหน่งและคุณสมบัติของอุปกรณ์ในระบบเสียงต่างๆให้ถุกต้อง ถ้าหากเป็นงานขนาดใหญ่อาจต้องใช้สถานที่เฉพาะเช่น Conference centre เพื่อความสะดวกในการออกแบบติดตั้งระบบเสียง
4 ระบบเสียงเพื่อการสื่อสารข้อมูลและประชาสัมพันธ์
อาจคล้ายคลึงกับข้อ 2.1 และ 2.3 ในบางส่วน แต่มีการกำหนดควบคุมพื้นที่เพื่อเลือกรับส่งข้อมูลเสียง
5 ระบบเสียงเคลื่อนที่เอนกประสงค์
โดยแต่ละระบบดังกล่าว อาจมีการใช้อุปกรณ์ร่วมกันหรือผสมระบบกันได้ หากมีจุดประสงค์การใช้งานหลากหลายหรือไม่เฉพาะเจาะจง
ระบบเสียง ถือเป็นระบบที่ต้องอาศัยความรู้ด้านวิศวกรรมศาตร์เกี่ยวกับเสียงหรือ Audio engineering มาประยุกต์ใช้ในการสร้างระบบเพื่อตอบสนองการใช้งานด้านเสียงโดยเฉพาะ และ อาจมีการใช้งานร่วมกับระบบภาพและแสง และต้องมีการรวมระบบหรือ System integration เข้าด้วยกันเป็นระบบภาพและเสียง หรือ Audio-visualหรือที่ผู้ใช้สื่อเรียกว่า มัลติมีเดีย Multimedia และบางครั้งอาจรวมระบบควบคุมแสง หรือ Lighting control system เข้ามาด้วยโดยเรียกรวมกันว่าระบบ AVL
เทคโนโลยีภาพเสียงไร้สาย
BLUETOOTH
เทคโนโลยีไร้สาย BLUETOOTH เป็นเทคโนโลยีไร้สายระยะสั้นที่สนับสนุนการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายระหว่างอุปกรณ์ดิจิตอล อย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และกล้องถ่ายภาพดิจิตอล เทคโนโลยีไร้สาย BLUETOOTH สามารถใช้งานได้ภายในช่วงระยะ 10 เมตร
การเชื่อมต่ออุปกรณ์สองชิ้นเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบการใช้งานตามปกติ แต่อุปกรณ์บางชนิดสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นมากกว่าสองชิ้นได้ในเวลาเดียวกัน
ท่านไม่จำเป็นต้องใช้สายเคเบิ้ลเพื่อทำการเชื่อมต่อ และไม่จำเป็นต้องวางอุปกรณ์ใกล้กันและหันเข้าหากันเหมือนการใช้เทคโนโลยีอินฟราเรด ตัวอย่างเช่น ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้จากกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อ/กางเกงมาตรฐาน BLUETOOTH เป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายพันบริษัททั่วโลก และมีบริษัทจำนวนมากนำไปใช้งานจนแพร่หลายทั่วโลกระยะสูงสุดที่สามารถใช้สื่อสารข้อมูลระยะสูงสุดที่สามารถใช้สื่อสารข้อมูลอาจสั้นลงได้ในกรณีต่อไปนี้มีสิ่งกีดขวางอย่างเช่น คน, โลหะ หรือกำแพง อยู่ระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้กับอุปกรณ์ BLUETOOTHมีอุปกรณ์ LAN ไร้สายใช้งานอยู่ในบริเวณใกล้กับอุปกรณ์ของท่าน
มีไมโครเวฟใช้งานอยู่ในบริเวณใกล้กับอุปกรณ์ของท่านมีอุปกรณ์ที่สร้างรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใช้งานอยู่ในบริเวณใกล้กับอุปกรณ์ของท่านการรบกวนจากอุปกรณ์อื่นเนื่องจากอุปกรณ์ BLUETOOTH และระบบ LAN ไร้สาย (IEEE802.11b/g) ใช้งานความถี่เดียวกัน อาจทำให้เกิดการรบกวนกันของคลื่นไมโครเวฟได้ ส่งผลให้ความเร็วการสื่อสารข้อมูลลดลง, เกิดสัญญาณรบกวน หรือไม่สามารถทำการเชื่อมต่อได้ หากใช้งานอุปกรณ์ของท่านใกล้กับอุปกรณ์ LAN ไร้สาย หากเกิดกรณีดังกล่าว ให้ดำเนินการดังนี้ใช้งานอุปกรณ์ที่ระยะห่างอย่างน้อย 10 เมตรจากอุปกรณ์ LAN ไร้สายหากใช้งานอุปกรณ์ภายในระยะ 10 เมตรจากอุปกรณ์ LAN ไร้สาย ให้ปิดอุปกรณ์ LAN ไร้สายการรบกวนที่มีต่ออุปกรณ์อื่นคลื่นไมโครเวฟที่แผ่ออกมาจากอุปกรณ์ BLUETOOTH อาจส่งผลรบกวนการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ได้ ให้ปิดอุปกรณ์ของท่านและอุปกรณ์ BLUETOOTH อื่นในสถานที่ต่อไปนี้ เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ในบริเวณที่มีก๊าซติดไฟง่าย, ในโรงพยาบาล, รถไฟ, เครื่องบิน หรือในสถานีบริการน้ำมันใกล้ประตูอัตโนมัติหรืออุปกรณ์แจ้งเตือนไฟไหม้
DLNA
DLNA (Digital Living Network Alliance) เป็นชื่อเทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานหรือข้อตกลงการเชื่อมต่อเพื่อให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ภายในบ้าน เชื่อมต่อกันได้ง่ายๆแบบไร้สาย ทำให้ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ทีวี กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นวีดีโอ ปริ้นเตอร์ กล้องวีดีโอ และอื่นๆที่รองรับ DLNA นี้ สามารถแชร์ซึ่งกันและกันได้ ไม่ว่าจะดูภาพยนต์ ดูภาพถ่าย ดูวีดีโอที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ มือถือ tablet หรือในกล้องให้จอใหญ่ขึ้น ดูได้หลายคน ก็แค่แชร์ขึ้นไปบนทีวีโดยไม่จำเป็นต้องใช้สาย การประชุมในห้องประชุมก็จะสะดวกขึ้น ผู้ที่ร่วมประชุม สามารถส่งภาพ หรือวีดีโอ ขึ้นไปแสดงบนจอสมาร์ททีวีในห้องประชุมเพื่อประกอบการนำเสนอได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้สายต่อให้วุ่นวาย
เทคโนโลยี DLNA นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2003 ก่อตั้งโดยค่าย SONY ปัจจุบันนี้มีสมาชิก 225 ราย รวมทั้งแบรนด์ดังหลายแบรนด์ เช่น LG Samsung Huawei intel Motorola cisco hp ericsson และอีกหลายราย ซึ่งทีวีสมัยใหม่และอุปกรณ์อื่นๆเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล กล้องวีดีโอ ในสเปคกลางถึงสูง ก็จะมีเทคโนโลยีนี้ติดตัวมาด้วยทั้งนั้น ซึ่งก็รวมถึง LG ใช้ชื่อ Smart Share ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับมาตรฐานกลางคือ DLNA แม้จะคนละแบรนด์ แต่ก็ยังสามารถส่งถึงกันได้
ประโยชน์ของ DLNA นี้คือสามารถส่งภาพ ส่งวีดีโอขึ้นทีวีสำหรับการนำเสนอได้ง่ายๆผ่านทาง Wi-Fi ได้เลย ไม่ต้องต่อสายพวก VGA ติดกับคอม หรือสาย Analog เชื่อมกับตัวเครื่องเล่นให้วุ่นวาย และทำให้รกรุงรัง แน่นอนว่าทำให้การสร้าง home network ทำได้ง่ายดาย หลายๆคนก็นำมาทำเป็น media center โดยใข้คอมพิวเตอร์ส่งภาพ วีดีโอ หรือดูหนังได้บนจอทีวีใหญ่ๆ ผ่านทาง DLNA นี้
โดย smart TV และ มือถือ หรืออุปกรณ์ที่ต้องการจะส่งภาพ ส่งวีดีโอขึ้นทีวี แบบไร้สายนี้ จะต้องรองรับเทคโนโลยี DLNA ด้วยกัน โดยวิธีสังเกตอย่างง่ายๆ คือดูที่กล่องหรือตัวเครื่องว่ามีสัญลักษณ์ DLNA หรือไม่ และ ทั้ง smart TV และมือถือ หรือ Tablet หรือ คอมพิวเตอร์นั้นๆ จะต้องเชื่อมต่ออยู่ในวง Wi-Fi เดียวกันกับทีวี ด้วย
สำหรับวิธีแสดงวีดีโอหรือรูปภาพออกสู่จอสมาร์ททีวีด้วยเทคโนโลยี DLNA นี้ ทำได้ง่ายๆ
ขั้นแรกก็ เชื่อมต่อมือถือ smart Phone ที่รองรับ DLNA กับ Wi-Fi ที่อยู่ในวงเดียวกันกับที่ทีวีเชื่อมต่ออยู่ โดยตัวทีวีแบบสมาร์ททีวีนั้นจะเชื่อมต่อเข้ากับ network ด้วย Wi-FI dongle หรือจะเสียบผ่านสาย LAN ก็ได้ และยิ่ง บางรุ่นที่ราคาแพงงหน่อยก็มี Wi-Fi built-in มาเลยในตัวทีวี
จากนั้น ลองเลือกรูปภาพ หรือวีดีโอในมือถือของเรา จากนั้น ก็กดปุ่ม ที่แชร์ผ่าน… เพื่อแสดงเมนูขึ้นมาบนมือถือ LG ก็จะเจอกับปุ่ม Smart Share นี้จะมาพร้อมอยู่แล้วติดอยู่กับมือถือเลย โดยไม่ต้องโหลดผ่านทาง Google Play แต่พวก DLNA ในมือถือเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมากับมือถือราคาระดับกลางๆ จนถึงราคาระดับแพงๆ
เมื่อเลือก smartshare เพื่อนำฉายภาพผ่านทาง DLNA ก็จะเจอรายชื่อของอุปกรณ์ที่เราจะแชร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นทีวี หรือคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆที่รองรับ DLNA นี้ ก็เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ เช่นผ่านทีวีก็เลือกรหัสรุ่นของทีวีนี้ เพียงแค่นี้ ภาพ หรือวีดีโอที่เลือก ก็จะปรากฏบนทีวีแล้ว และยังสามารถแชร์จากคอมพิวเตอร์ หรือ กล้องดิจิตอล ที่มี DLNA นี้ ให้ขึ้นบนทีวีก็ได้ด้วยเช่นกัน และเทคโนโลยี DLNA นี้นำมาทำเป็น MediaCenter เพื่อความบันเทิงภายในบ้าน
Miracast
เทคโนโลยี Miracast™ จะอนุญาตให้หน้าจอของอุปกรณ์ Wi-Fi® Certified Miracast device-โทรศัพท์สมาร์ทโฟน, แทปเล็ต หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์--ให้ท่านสามารถทำการแสดงบนหน้าจอของทีวีได้. โดยใช้ฟังก์ชั่น การจำลองหน้าจอของทีวี และไม่ต้องใช้เราท์เตอร์แบบไร้สายหรือแบบมีสายช่วยในการทำงาน.
Ezcast
EZ Cast HDMI Dongle
อุปกรณ์ ที่สามารถเปลี่ยน TV ธรรมดาๆ ของคุณ ให้คุณสามารถเชื่อมต่อใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ และสามารถดูหนัง ฟังเพลงออนไลน์ ได้โดยการควบคุมผ่าน Smart Phone (Android/Iphone),Tablet และคอมพิวเตอร์ และยังสามารถแชร์ข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์ Document Ebook หรือแม้กระทั้งเกมส์ เข้าสู่จอ TV ได้อีกด้วย
คุณสมบัติ
สามารถเชื่อมต่อกันแบบไร้สายระหว่างTV และสมาร์ทโฟนเพื่อแชร์ข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์เอกสาร หรือไฟล์เสียง
สนับสนุน ezCast,DLNA,Miracast,EZAir(Airplay),ควบคุมและถ่ายทอดหน้าจอเพียงกดแค่ปุ่มเดียว
มีขนาดเล็กสามารถพกพาได้สะดวก
สนับสนุน Wifi 802.11 b/g/n
สนับสนุน HDMI 1.4,1080P Full HD
สนับสนุน อัพเดทออนไลท์
สนับสนุนระบบปฎิบัติการ Window,Android,IOS
Wecast
Wecast ด็องเกิลลิงก์การเชื่อมต่อ WIDLE WiFi ช่วยให้คุณแบ่งปันภาพถ่ายเพลงและวิดีโอได้อย่างง่ายดายจาก IOS และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แท็บเล็ตพีซีและคอมพิวเตอร์ ไฟล์มัลติมีเดียสามารถแสดงผลได้บนจอทีวีจอภาพคอมพิวเตอร์หรือโปรเจคเตอร์ WiFi miracast dongle ยังสนับสนุนเทคโนโลยี miracast และ airplay กล่าวได้ว่าเป็นเครื่องมือสำหรับความบันเทิงมัลติมีเดียภายในบ้านของคุณซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับงานนำเสนอในสำนักงานของคุณ
คุณสมบัติหลัก:
การเชื่อมต่อแบบไร้สายซิงค์ไฟล์รูปภาพ / วิดีโอ / เพลง / ไฟล์สำนักงาน / เว็บเบราเซอร์ / กล้องถ่ายรูปจาก iPhone / Android มาร์ทโฟน / แท็บเล็ตพีซีไปยังทีวีจอ / โปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการนำเสนอ PPT และการประชุมทางวิดีโอ
รองรับคุณลักษณะแบบโต้ตอบหลายหน้าจอเช่น DLNA / EZMirror (Miracast) / EZAir (Airpaly)
คุณสามารถสร้างโน้ตที่มีสีสันลงบนภาพถ่าย / Word / Excel / PPT / PDF / เว็บไซต์ไม่ว่าคุณจะบันทึกหรือไม่ก็ตาม
การเชื่อมต่อ WiFi ไร้สาย 802.11 b / g / n และความสามารถในการป้องกันการรบกวนที่แข็งแกร่ง
เอาต์พุต 1080P Full HD
ขนาดเล็กน้ำหนักเบาสะดวกในการเดินทาง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น